วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2554

73: พระคู่กาย IT Man


การอัญเชิญพระพิมพ์ของ นรธ. ส่วนใหญ่จะสอดคล้องกัน คือจักมีพระพิมพ์ที่ตัวเองชื่นชอบในสายวัง 1 องค์และพระพุทธปฐวีธาตุประจำตัวอีก 1 องค์
ตัวอย่างรายละเอียดในพระพิมพ์ตามภาพดังนี้

1. พระกริ่งรัชกาลที่ 3 สร้างในปี พ.ศ.2382: โดยมีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าลดาวัลย์ กรมหมื่นภูมินทรภักดี (พระราชโอรสในรัชกาลที่ 3)
รงถวายงานเป็นนายช่าง-กรมช่างสิบหมู่ ตั้งแต่ยุคนั้นจนถึงยุคต้นรัชกาลที่ 5
การอัญเชิญพระกริ่งองค์นี้ก็เพื่อ...
- เป็นพุทธานุสติถึงองค์พระไภษัชยคุรุสัมมาสัมพุทธเจ้าแลองค์พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ที่ทรงแผ่พระเมตตาให้พระกริ่งมีพลานุภาพไร้ขีดจำกัดตั้งแต่ดั้งเดิม
- เพื่อเป็นสังฆานุสติถึงสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี พระผู้ทรงอธิษฐานจิต อัญเชิญสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแผ่พระฉัพรรณรังสีมาประดิษฐานในองค์พระกริ่งนี้
- เพื่อเป็นการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 3 พระผู้ทรงโปรดเกล้าให้สร้างพระกริ่งนี้ขึ้นมา
- เพื่อเป็นการระลึกนึกถึงพระคุณความดีของกรมหมื่นภูมินทรภักดี พระผู้ทรงเป็นกำลังสำคัญในการสร้างพระพิมพ์ พระบูชาและวัดสำคัญต่างๆในพระพุทธศาสนา

2. พระพุทธปฐวีธาตุเอตะทัคคะบารมี รุ่นแก้วจักรพรรดิมณีนาคา:
ถือกำเนิดในลุ่มแม่น้ำโขง จากการหล่อหลอมของธาตุทั้ง 5 จนเกิดเป็นพระธาตุใสมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยมีพญานาคดูแลรักษาทุกองค์
พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช เล็งเห็นคุณค่าที่กล่าวมาข้างต้น จึงได้นำมาบรรจงเขียนเป็นรูปพระพุทธเจ้าที่เคารพบูชาสูงสุด
พร้อมทั้งแผ่เมตตาอธิษฐานจิตให้มีพลานุภาพไม่มีประมาณและมอบให้ศิษย์เพื่อ...
- เป็นพุทธานุสติถึงพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์จวบจนพระองค์ในอนาคต เช่น พระศรีอริยเมตตรัย เป็นต้น
- เป็นธรรมานุสติ: การที่ผู้อัญเชิญจักเห็นธรรมได้แจ่มแจ้ง จักต้องขัดเกลากิเลสให้เบาบางจนใสสะอาดเหมือนปฐวีธาตุ จึงจักเข้าถึงพระธรรม แลเข้าถึงองค์พุทธะตามลำดับ
- เป็นสังฆานุสติถึงพ่อแม่ครูอาจารย์พ.สุรเตโช พระผู้บรรจงสร้าง: ในทุกยามที่อัญเชิญ จิตจักมุ่งทำความเพียร มีสัมมาสติ สัมมาสมาธิ เป็นอาทิ แลมีพละกำลังที่กล้าแกร่งแข็งเหมือนปฐวีธาตุเสมอๆ

3. สร้อยประคำปล้องอ้อยเพชรตาเสือ:
มีคุณค่าและความศักดิ์สิทธิ์ในตัว ทั้งป้องกันภัย รักษาธาตุขันธุ์ภายใน เกิดดวงตาที่สามง่ายขึ้น และเพื่อเป็นการระลึกนึกถึงวาระธรรมะสัญจรครั้งที่สอง ที่พ่อแม่ครูอาจารย์และคณะฯมาโปรดถึงถิ่นฐานบ้านเรือน
ท่านยังเมตตาสงเคราะห์ให้สร้อยประคำเส้นนี้มีพลานุภาพไร้ขีดจำกัด ไม่ได้ด้อยไปกว่าธาตุใดๆในใต้หล้า จนอาจเรียกได้ว่า...เป็นเจ้าแห่งป่าเขา ส่วนปฐวีธาตุนั่นเล่า...เป็นเจ้าแห่งสายน้ำ

4. เม็ดกริ่งเหล็กไหล(ประจุไว้แต่เดิม)และเหล็กไหลตาน้ำ(ประจุในภายหลัง 2 องค์) โดยพ่อแม่ครูอาจารย์ฯประจุ 1 , ผมประจุปิดอีก 1 :
นับเป็นการเชื่อมโยงเติมภาคอดีตที่ยังพร่องอยู่(เพราะเป็นรูบุ๋มเข้าใปในองค์พระ)ให้เต็มสามในภาคปัจจุบัน เพื่อยังให้เกิดผลดีงามในกาลอนาคต

5. ปิดฐานพระ/ด้านหลังพระด้วยทองคำเปลวบูชาพระพุทธบาท 4 รอย แห่งพระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์ในภัทรกัปป์นี้
ประดิษฐานบนยอดเขาสูง มีเทวดาผู้แหงนมองขึ้นท้องฟ้าพิทักษ์รักษา (เจ้าแห่งนภากาศ) ณ.แม่ริม เชียงใหม่:มอบให้โดยพ่อแม่ครูอาจารย์ฯ
- เพื่อเป็นพุทธานุสติถึงพระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์ในภัทรกัปป์-พุทธกัปป์ปัจจุบัน
- เพื่อเป็นการระลึกนึกถึงเหตุการณ์ปีติในพระธรรมสังเวช อย่างสุดซึ้งในวาระแรกที่ได้ร่วมเดินทางแสวงบุญมา ณ ที่สำคัญแห่งนี้

ตอนแรกผมว่าจะเขียนถึงองค์ดำ/สร้อยประคำ
เพื่อนอบน้อมถึงพระคุณท่านเจ้าขรัวแสง แต่ท่านนนต์กล่าวถึงเรียบร้อยแล้ว 
เป็นว่าชมแต่รูปละกันเนาะ