วันอังคารที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2556

232: แก้วแม่น้ำโขงกับแก้วหมอกมุงเมือง

ดินแม่น้ำโขง (มีพระธาตุเกาะติดทั้งด้านหน้าและหลังองค์พระ)
แกะสลักเป็นองค์พระพุทธปฐวีธาตุ (พระนาม:พระพุทธนาคาพิทักษ์)

ดินแม่น้ำโขง (มีพระธาตุเกาะติดทั้งด้านหน้าและหลังองค์พระ)

ดินแม่น้ำโขง (มีพระธาตุเกาะติดทั้งด้านหน้าและหลังองค์พระ)
แก้วแม่น้ำโขง หรือมณีน้ำหาว สร้างเป็นองค์พระพุทธปฐวีธาตุ

แก้วแม่น้ำโขง หรือมณีน้ำหาว สร้างเป็นองค์พระพุทธปฐวีธาตุ

แก้วแม่น้ำโขง หรือมณีน้ำหาว สร้างเป็นองค์พระพุทธปฐวีธาตุ

แก้วแม่น้ำโขง หรือมณีน้ำหาว สร้างเป็นองค์พระพุทธปฐวีธาตุ
แก้วโป่งข่ามที่จารเป็นองค์พระ

แก้วหมอกมุงเมืองเปล่งประกายเป็นสีรุ้งโดยธรรมชาติ

231: แก้วโป่งข่ามหมอกมุงเมือง


แก้วหมอกมุงเมือง เป็นแก้วที่มีลักษณะภายในเหมือนกับลายที่เกิดขึ้นในก้อนน้ำแข็ง คือจะมีลักษณะเป็นลายสีขาว ๆ อาจจะขาวบาง ๆ 
หรือขาวขุ่นหนาทึบเหมือนกับเมฆบนท้องฟ้า หรืออาจจะมีสีเทาหรือฟ้าอ่อน หรือมีลักษณะหรือสีเหมือนกับควันไฟ ก็ได้
หากใครได้ครอบครองแก้วหมอกมุงเมือง จะทำให้เกิดความชุ่มเย็น อีกทั้งยังส่งผลให้เกิดความบริบูรณ์ด้วยทรัพย์สินเงินทอง

ในอีกด้านหนึ่งนั้น แก้วหมอกมุงเมืองจะเหมาะกับผู้ที่ฝีกสมาธิ เนื่องจากแก้วจะช่วยเสริมสมาธิให้กับผู้ฝีก โดยในสมัยโบราณ 
แก้วชนิดนี้ถูกนำมาให้ในการเสี่ยงทาย และทำสมาธิในการเพ่งดูนรกสวรรค์
แก้วหมอกมุงเมืองสามารถใช้ได้กับวันเกิดทุกวัน โดยเฉพาะคนที่เกิดวันอังคาร หรือผู้ที่ต้องการเสริมบารมี หรือเสริมสมาธิ 
เนื่องจากคำว่า "หมอกมุงเมือง" หมายถึงความร่มเย็น เสมือนมีหมอกมามุงเมืองไว้ ไม่มีความเดือดร้อนเลย

อีกประการหนึ่ง คำว่า "หมอกเมือง" ในตำราพิไชยสงครามโบราณมีความหมายถึงบรรดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างเทพประจำเมืองอีกด้วย 
ดังนั้น คำว่าหมอกมุงเมืองจึงมีนัยว่า เป็นแก้วที่มีเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์คอยคุ้มครองให้ร่มเย็น มั่งคั่ง และยังข่ามคงสีหนาถอีกด้วย



ที่มา : http://www.pongkaam.com/stonetype.php?id=105
ภาพประกอบ : IT Man