วันพุธที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

156: ลูกอมปัญจสิริสายวัง


ลูกอมหรือเครื่องลางที่วางไว้ข้างบนตำแหน่งพระประธาน
ควรพิจารณาให้ถ้วนถี่ว่าเหมาะสมหรือไม่ ไม่ใช่ว่าได้มาแล้วก็เลี่ยมขึ้นกลางเลย
ผมเคยถูกพระอริยะเจ้าแถวๆอยุธยาทักท้วงเป็นปริศนาธรรมมาในคราที่ไปกราบท่านกับคณะฯ

วันนั้นผมเอาลูกอมข้างบนนี้วางไว้สูงกว่าพระสมเด็จองค์ TOP4 (ตามรูป) ซึ่งไม่เหมาะสม
ไม่มีอะไรที่จักสูงกว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราอีกแล้ว ผมต้องปลดออก
ลูกอมปัญจสิรินี้เสกโดยหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร จึงไม่สามารถวางไว้สูงกว่า

การใช้งานก็ควรพิจารณาถึงองค์เสกลูกอมหรือเครื่องรางว่าสูงกว่าองค์ประธานหรือไม่ หากต่ำกว่าควรแยกไว้ต่างหาก
สำคัญมากๆครับ สำคัญอีกคือ ไม่มีใครที่ไม่เคยผิดพลาด เพราะคนที่ไม่เคยทำอะไรผิดพลาดคือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลย

วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

155: สมเด็จหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด


หน้าตักขนาด 9" เนื้อนวะ

หน้าตักขนาด 1" เนื้อแก้วมณีโชติ
หลวงปู่ทวด
(หรือ สมเด็จเจ้าพะโคะ, หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด,
สมเด็จเจ้าพระราชมุนีสามีรามคุณูปรมาจารย์)
ประวัติ
ตามตำนาน[2]กล่าวว่าหลวงปู่ทวด เป็นบุตรของนายหู นางจันทร์ ซึ่งเป็นทาสในเรือนเบี้ย (ทาสทำงานใช้หนี้) ของเศรษฐีปานเกิดในปลายรัชสมัยของสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช เมื่อ 3 มีนาคม พ.ศ. 2125 ณ บ้านสวนจันทร์ (บ้านเลียบ) ต.ดีหลวง (ปัจจุบันเป็นตำบลชุมพล) อ.สทิงพระ(จะทิ้งพระ) จ.สงขลา แรกเกิดมีชื่อว่าปู ขณะท่านเกิดมีเหตุอัศจรรย์คือเกิดฟ้าร้องฟ้าผ่าแผ่นดินสะเทือนเลื่อนลั่น เสมือนหนึ่งว่ามีผู้มีบุญญาธิการมาเกิด เมื่อตัดรกจากสายสะดือแล้วนายหูบิดาของท่านก็นำรกของท่านไปฝังไว้ที่โคนต้นเลียบ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ต้นเลียบในปัจจุบัน
เมื่อท่านเกิดมาแล้วก็มีเหตุอัศจรรย์เกิดขึ้นกับท่านเรื่อยมา เป็นต้นว่า ขณะที่ท่านอยู่ในวัยแบเบาะในช่วงฤดูเกี่ยวข้าวบิดามารดาของท่านต้องออกไปเกี่ยวข้าวที่กลางทุ่งนาซึ่งเป็นนาของเศรษฐีปาน ซึ่งท้องนาแห่งนั้นห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร ที่นาแห่งนั้นมีดงตาลและมะเม่าเป็นจำนวนมากครั้งนั้นจึงเรียกว่าทุ่งเม่า ปัจจุบันตั้งเป็นสำนักสงฆ์ชื่อนาเปล ในสมัยนั้นจึงมีสัตว์ป่าชุกชุมพอสมควร บิดามารดาของท่านจึงผูกเปลของท่านซึ่งเป็นเปลผ้าไว้กับต้นมะเม่าสองต้นและก็ได้เกี่ยวข้าวอยู่ไม่ไกลจากบริเวณนั้น พอได้ระยะเวลาที่นางจันทร์ต้องให้นมลูก นางจันทร์จึงเดินมาที่ที่ปลูกเปลของลูกน้อย และก็เห็นงูจงอางตัวใหญ่หรืองูบองหลาที่ชาวภาคใต้เรียกกันพันที่รอบเปล นางจันทร์เห็นแล้วตกใจเป็นอันมากจึงเรียกนายหูซึ่งอยู่ไม่ไกลนักมาดูและช่วยไล่งูจงอางนั้น แต่งูจงอางนั้นก็ไม่ไปไหน นายหูและนางจันทร์จึงตั้งสัตยาธิฐานว่าขออย่าให้งูนั้นทำร้ายลูกน้อยเลย ไม่นานนักงูจงอางนั้นก็คลายวงรัดออกและเลื้อยหายไปในป่านายหูและนางจันทร์จึงเข้าไปดูลูกน้อยเห็นว่ายังหลับอยู่และไม่เป็นอันตรายใด ๆ และปรากฏว่ามีเมือกแก้วขนาดใหญ่ที่งูจงอางคลายไว้อยู่บนอกเด็กชายปูนั้น เมือกแก้วนั้นมีแสงแวววาวและต่อมาได้แข็งตัวเป็นลูกแก้ว ปัจจุบันได้ประดิษฐานที่วัดพะโคะ เมื่อเศรษฐีปานทราบเรื่องเข้าก็บีบบังคับขอลูกแก้วเอาจากนายหูและนางจันทร์ บิดามารดาของท่านจึงจำต้องยอมให้ลูกแก้วนั้นแก่เศรษฐีปานซึ่งเป็นนายเงิน แต่ลูกแก้วนั้นเป็นของศักดิ์สิทธิประจำตัวท่าน เมื่อเศรษฐีปานเอาลูกแก้วไปแล้วก็เกิดเภทภัยในครอบครัวเกิดการเจ็บป่วยกันบ่อย และมีฐานะยากจนลง เศรษฐีปานจึงได้เอาลูกแก้วมาคืนและขอขมาเด็กชายปู และยกหนี้สินให้แก่นายหูและนางจันทร์ ทั้งสองจึงพ้นจากการเป็นทาสและต่อมาก็มีฐานะดีขึ้น ๆ ส่วนเศรษฐีปานก็มีฐานะดีขึ้นดังเดิม
เมื่อท่านมีอายุได้ประมาณ 7ขวบ พ.ศ. 2132 บิดามารดาของท่านจึงนำท่านไปฝากไว้เป็นศิษย์วัดเพื่อเล่าเรียนหนังสือ ที่วัดกุฎ๊หลวงหรือวัดดีหลวงในปัจจุบัน ซึ่งเป็นวัดอยู่ใกล้บ้านท่าน ขณะนั้นมีท่านสมภารจวง ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ เด็กชายปูเป็นเด็กที่หัวดีเรียนเก่งสามารถเล่าเรียนภาษาขอมและภาษาไทยได้อย่างรวดเร็ว สมภารจวงได้บวชให้ท่านเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 15 ปี ตอนที่ท่านบวชเป็นสามเณรนี้เองบิดาของท่านจึงถวายลูกแก้วคืนให้แก่ท่านเป็นลูกแก้วประจำตัวท่านต่อไป
ด้วยความที่เป็นคนใฝ่เรียนใฝ่รู้ตลอดเวลาของท่าน ต่อมาท่านสมภารจวงได้นำไปฝากให้เล่าเรียนหนังสือที่สูงขึ้นสมัยนั้นเรียกว่ามูลบทบรรพกิจ ปัจบันก็คือเรียนนักธรรมนั่นเอง โดยนำไปฝากเรียนไว้กับสมเด็จพระชินเสน ซึ่งเป็นพระเถระชั้นสูงที่ส่งมาจากกรุงศรีอยุธยา ให้มาครองเป็นเจ้าอาวาสวัดสีคูยังหรือวัดสีหยังในปัจจุบัน ห่างจากวัดดีหลวงไปทางเหนือประมาร 4 กิโลเมตร ท่านได้เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและจบหลักสูตรที่วัดสีคูยังนั้น หลังจากนั้นท่านได้เดินทางเข้ามาศึกษาต่อที่เมืองนครศรีธรรมราชเพื่อเรียนหนังสือให้สูงขึ้น
โดยมาพำนักอยู่ที่วัดเสมาเมือง ซึ่งเป็นสำนักเรียนและมีสมเด็จพระมหาปิยะทัสสี เป็นเจ้าอาวาส และบรรพชาอุปสมบทเป็นพระสงฆ์เมื่ออายุครบกาลอุปสมบท ท่านได้ศึกษาวิชาจากครูบาอาจารย์ต่าง ๆ จนมีความรู้และเป็นผู้ทรงอภิญญามาก และได้แสดงปาฏิหาริย์หลายครั้ง ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์จากสมเด็จพระเอกาทศรศในครั้งสุดท้ายในราชทินนามที่ สมเด็จเจ้าพระราชมุนีสามีรามคุณูปรมาจารย์ สุดท้ายเมื่อท่านมีอายุได้ 80 ปี ท่านได้กลับมาจำพรรษาที่วัดพะโคะ วัดบ้านเกิดของท่าน จวบจนมรณภาพ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2225 สิริรวมอายุได้ 99 ปี
[แก้] ความเชื่อในวัตถุมงคลที่เนื่องด้วยหลวงปู่ทวด

หลวงปู่ทวดเป็นที่รู้จักกันดีในประเทศไทยและรู้จักเป็นอย่างดีในวงการพระเครื่องมาก จากตำนานและการที่มีผู้เชื่อตำนานดังกล่าวว่าท่านเป็นพระที่มีความศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่เก่งกล้ามากรูปหนึ่งจนได้รับสมญานามว่า "หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด"
[แก้] คาถาสักการบูชาหลวงปู่ทวด
การสักการบูชาให้ตั้งสวด นโม ตสฺส ฯลฯ 3 จบ ตามด้วยคาถานี้ 3 จบเช่นกัน


นโม โพธิสตฺโต อาคนฺติมาย อิติภควา

มีความหมายว่า "ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่เจ้าประคุณสมเด็จหลวงปู่ทวด ผู้เป็นพระโพธิสัตว์ เป็นผู้มีโชคซึ่งเข้ามาสถิตอยู่ในตัวของข้าพเจ้านี้" คำว่า อาคนฺติมาย ควรจะเป็น อาคนฺตีมาย เนื่องจากเป็นคำสนธิระหว่าง อาคนฺติ กับ อิมาย แต่คงเสียงสระสั้นไว้เพื่อความไพเราะของภาษา [3]
อาจารย์ชะเอม แก้วคลาย (ป.ธ.๗) และอาจารย์สุวัฒน์ โกพลรัตน์ (ป.ธ.๙) ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาโบราณของหอสมุดแห่งชาติ ได้วิเคราะห์ไว้ว่า คาถานี้ไม่ถูกหลักไวยากรณ์ภาษาบาลี แต่เป็นการผูกเงื่อนงำในทางความหมาย การผูกประโยคจึงต้องนำศัพท์เข้ามาเพิ่ม ประโยคที่สมบูรณ์จึงควรเป็นดังนี้ [3]
โย เถโร โพธิสตฺโต อิติภควา อิมาย ชนาย อาคนฺติ นโม ตสฺส โพธิสตฺตสฺส อิติภควโต เถรสฺส อตฺถุ
[อันว่าพระเถระรูปใดเป็นพระโพธิสัตว์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีโชคย่อมมาสู่ชน (หรือบุคคล) ผู้นี้
อันว่าความนอบน้อมขอจงมีแก่พระเถระ ผู้เป็นพระโพธิสัตว์ ที่ได้ชื่อว่าผู้มีโชครูปนั้น]

 
บันทึกภาพครั้งแรกสีเป็นสีทองน่าฉงน
พระพุทธปฐวีธาตุ จากหินพระธาตุองค์หลวงปู่ทวด

วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

154: พระพิมพ์หลวงปู่ทวดสร้างวัดภูดานไห


เมื่อวานหลังจากผมได้พบกับท่านสุทนแล้ว ท่านมีเมตตาได้มอบพระผงหลวงปู่ทวด ด้านหลังมีรูปหล่อโลหะองค์น้อยฝังอยู่ และบางองค์ฝังตะกรุดด้านหลัง ผมไม่ทราบที่มาว่าสร้างที่ไหน เมื่อไหร่ แต่ทราบแต่ว่ามาจากจังหวัดปัตตานี ผมตรวจสอบพลังแล้ว ปรากฏว่า มีพลังนุ่มนวลค่อยๆไหลเข้ามาจนเย็นซ่าไม่หยุดแบบไร้ขีดจำกัด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพระหลวงปู่ทวดแท้ พระชุดนี้ หลวงปู่ทวดท่านเสด็จมาอธิษฐานจิตเอง(อทิสมานกาย) ข้อนี้ต้องให้ผู้มีญาณทั้งหลายตรวจสอบอีกทีว่าจริงหรือไม่ แต่ผมรับรองว่าเป็นพระดีอีกชุดหนึ่ง มีพลังเมตตา บารมี และแคล้วคลาดครับ
ปล.ท่านสุทนกระซิบมาว่า อาจารย์ช่วยเอาไปให้คนทำบุญถวายวัดภูดานไหด้วย ผมพิจารณาดูแล้ว หากมีผู้สนใจจะร่วมทำบุญโดยขอรับพระชุดนี้ ก็น่าจะเปิดราคาบุญที่องค์ละ 1,000 บาท (หมายเหตุ ผมขออนุญาตบวกค่าจัดส่ง EMS อีกองค์ละ 60 บาท เพราะวันๆผมส่งหลายที่ ก็เป็นเงินเยอะอยู่ จึงต้องรบกวนผู้ใจบุญจัดส่งค่าส่งมาพร้อมด้วยครับ) และผมขออนุญาตให้ร่วมทำบุญผ่านบัญชีของผมก่อน เพราะมีค่าจัดส่งด้วย หลังจากนั้นผมจะนำไปถวายพ่อแม่ครูอาจารย์อีกครั้งครับ
ชื่อบัญชี นายณัฐนนต์ สิปปภากุล
เลขบัญชี 503-269483-3
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขานครราชสีมา ประเภทออมทรัพย์
บุญกุศลในครั้งนี้ ผมขอยกให้ท่านสุทนและผู้ร่วมทำบุญทุกท่านครับ
ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
18 กพ. 2555
ขออนุญาตเพิ่มเติมสักนิดนะครับ..
หลวงปู่ทวดชุดนี้มีจำนวนจำกัด เป็นพระกรุ มีร่องรอยการปิดทอง ผิวแห้งสนิท มีคราบไขขาวอันเป็นลักษณะเฉพาะของพระหลวงปู่ทวด ด้านหลังฝังรูปหล่อหลวงปู่ทวดแบบลอยองค์ขนาดจิ๋ว เฉพาะที่ฝังตะกรุดจิ๋วมีแค่ 5 องค์ เป็นพิมพ์ที่ผมไม่เคยพบเห็นมาก่อน อธิษฐานแล้วมีพลังตามที่อาจารย์ ดร.นนต์ กล่าว ทุกประการ..
ขออนุโมทนากับผู้ที่ทำบุญและโชคดีที่ได้ไว้ครอบครอง / d-crew
อนุโมทนากับผู้บูชาพระหลวงปู่ทวดเพื่อสร้างวัดภูดานไห (หมดแล้ว)
ผมขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า บัดนี้การเปิดให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมทำบุญบูชาพระหลวงปู่ทวดเนื้อผง เพื่อนำรายได้ไปน้อมถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช เพื่อสร้างศาสนวัตถุวัดภูดานไห จำนวน 10 องค์ ได้หมดลงแล้ว ได้รับเงินปัจจัยที่จะน้อมถวายรวมทั้งสิ้น 10,000 บาท ผมจึงขออนุโมทนากับผู้ใจบุญทั้งหลาย ดังรายนามต่อไปนี้

1. คุณวันชัย เมฆชัยพร และครอบครัว (4 องค์) 4,000 บาท
2. คุณปรเมษ แผนวงษ์ 1,000 บาท
3. คุณธีระยุทธ์ สังฆ์ทอง 1,000 บาท
4. คุณอาวุธ ชินนภาแสน 1,000 บาท
5. คุณชูเกียรติ จันทนาม 1,000 บาท
6. คุณจักรพงษ์ ดำรงอาภาติ 1,000 บาท
7. คุณจักรกฤช ศรีเจริญ 1,000 บาท

รวม 10,000 บาท เมื่อผมโอนเงินไปเข้าบัญชีแม่ชมแล้ว ผมจะแจ้งให้ทุกท่านทราบอีกครั้งครับ

อนึ่ง ผมขออนุโมทนาบุญกับท่าน นาวาอากาศโทสุทน ยาพัน ผู้มอบพระหลวงปู่ทวดเพื่องานบุญนี้ทั้งหมด และขออนุโมทนากับผู้ใจบุญทั้งหลายที่ได้บูชาพระในครั้งนี้ ผมขอให้ทุกท่านจงมีความสุขความเจริญ สงบร่มเย็น สว่างไสวทั้งทางโลกและทางธรรม จนกว่าจะเข้าพระนิพพานทุกท่านเทอญ

ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
23 กพ. 2555 

สมาชิกธรรม:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ สมาชิกธรรม อ่านข้อความ
โมทนาสาธุบุญทุกประการกับทุกๆท่านด้วยนะครับ.....

หากว่าศรัทธาของญาติธรรมทั้งหลายยังหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสายเช่นนี้.....ผมยินดีมอบพระเครื่องให้ท่านดร.นนต์ได้นำไปมอบตอบแทนแก่ผู้ที่ได้ร่วมทำบุญสร้างศาลาปฎิบัติธรรมและโรงครัวอีก9 องค์ครับ.....เป็นพระหลวงปู่ทวดพิมพ์กลักไม้ขีด(ลงกรุ)ซึ่งมีอิทธิคุณสูงครบเครื่องอีกองค์ของสายวัง โดยร่วมทำบุญ 1,099.-บาทมอบพระหลวงพ่อทวด 1องค์ครับ.....โดยการโอนเงินถึงท่านดร.นนต์โดยตรงเหมือนเดิมครับ

ปล.หากท่านดร.นนต์ไม่มีปัญหาอะไรขัดข้องผมจะส่งพระเครื่องชุดนี้ให้ถึงมือท่านภายในต้นอาทิตย์หน้านะครับ(คราวหน้าคงเป็นพระรูปหล่อหลวงพ่อเงิน3 องค์ตามที่แจ้งไว้ ทำบุญ10,999.-มอบพระหลวงพ่อเงิน 1 องค์ เนื่องในวาระพิเศษจริงๆครับ)

ดร.นนต์
ขออนุโมทนาและยินดีเป็นอย่างยิ่ง สำหรับพระหลวงปู่ทวดพิมพ์กลักไม้ขีด(วังหน้า) ที่ท่านพิเชฐมีจิตศรัทธาจะบริจาคมาเพื่อให้ผู้ใจบุญทั้งหลายได้บูชา เพื่อนำเงินปัจจัยไปน้อมถวายแด่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์เพื่อสร้างศาสนวัตถุวัดภูดานไหต่อไป ก็ขอให้อดใจรออีกนิดนะครับ

ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
24 กพ. 2555
สมาชิกธรรม:

ด้วยความยินดีเช่นกันครับท่านดร.นนต์.....เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาผมจะดำเนินการจัดส่งให้ในบ่ายวันนี้ พรุ่งนี้เที่ยงอาจได้รับนะครับ.....หากว่าเป็นที่ถูกใจและจำนวนไม่เพียงพอต่อศรัทธาของญาติธรรมทั้งหลาย ผมเพิ่มเติมให้ในภายหลังนะครับ.....
IT Man:
เรียนญาติธรรมที่ศรัทธาองค์ห์หลวงปู่ทวด,องค์หลวงปู่โตและคณะหลวงปู่ใหญ่

พระพิมพ์ชุดนี้ หากพลาดโอกาสทำบุญร่วมสร้างวัดก็นับว่าน่าเสียดายหลายแต๊
ขอโมทนาสาธุ
***************************
ขอเชิญร่วมทำบุญด้วยการบูชาพระหลวงปู่ทวดเพื่อสร้างวัดภูดานไห
พระหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน พิมพ์กลักไม้ขีด กรุวังหน้า ที่สร้างมาเกือบ 150 ปีแล้ว มีผู้ตรวจสอบภายในแล้วปรากฏว่า คณะหลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดรอธิษฐานจิตทั้งคณะ และเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) อีกด้วย ผมขอรับรองว่า พลานุภาพนั้นสูงมาก แบบไร้ขีดจำกัด เด่นทางด้านป้องกันภัย(ภัยธรรมชาติที่กำลังจะเกิดขึ้น) แคล้วคลาด และเมตตาบารมี พลังของท่านจะค่อยๆปรากฏแบบนุ่มนวลแต่หลั่งไหลมาแบบไม่หยุด

ท่านพิเชฐ พันธุ์สุข กรุณาส่งมาจำนวน 9 องค์ เพื่อให้ทุกท่านได้บูชาเพื่อร่วมทำบุญกับพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโชเจ้า จึงนับว่าได้บุญกุศลสองต่อ ท่านพิเชฐให้เปิดราคาบุญที่องค์ละ 1,199.99 บาท น่าจะรวมค่าจัดส่ง 100 บาท เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นผมจะขอหักค่าจัดส่งไว้ องค์ละ 100 บาท ฉะนั้น จะยังคงเหลือยอดนำถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ 1,099.99 บาท และหากง่าย ผมขอให้ท่านโอนเงินเป็นเลขจำนวนเต็ม 1,200 บาท น่าจะง่ายกว่านะครับ (เพิ่มอีก 1 สตางค์) แล้วผมจะนำถวายยอดเต็ม 1,100 บาท ขอบุญกุศลจงบังเกิดแด่ท่านพิเชฐและผู้ใจบุญทุกท่านนะครับ

หมายเหตุ ตอนนี้เหลือ 8 องค์ครับ
หากท่านใดประสงค์จะร่วมทำบุญ กรุณาแจ้งผมมา แล้วผมจะบอกเลขที่บัญชีธนาคารผ่าน PM หรืออีเมลล์ส่วนตัวอีกครั้งครั้ง (ผมขอเอาเลขที่บัญชีส่วนตัวออกก่อนนะครับ เพราะท่านผู้อาวุโสเตือนมาว่า อาจเป็นเป้าของมิจฉาชีพได้)
Email. : dr.natdhnond@gmail.com, 085 7678 008
ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
27 กุมภาพันธ์ 2555
***************************
ขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า บัดนี้พระหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน พิมพ์กลักไม้ขีด วังหน้า จำนวน 9 องค์ ที่ได้รับบริจาคมาจากท่านพิเชฐ พันธุ์สุข บัดนี้ได้หมดลงแล้ว โดยมีคุณมานิตย์ บูรณเจริญกิจ เป็นผู้แจ้งมาเป็นคนสุดท้ายเมื่อสักครู่ แล้วผมจะแจ้งยอดเงินปัจจัยที่จะนำถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ในลำดับต่อไป

ขอบุญกุศลทั้งหลายที่พวกเราได้ร่วมกันกระทำในครั้งนี้ จงมารวมยอดต่อบุญบารมีให้พวกข้าพเจ้าทั้งหลาย จงมีแต่ความสุขความเจริญ สว่างไสวทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งๆขึ้นไปจนกว่าจะเข้าสู่พระนิพพานทุกท่านเทอญ

ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
28 กพ. 2555
***************************
IT Man:
เมื่อสักครู่ญาติธรรมทาง กทม.คุณคุณธีระยุทธ์ สังฆ์ทอง ก็แจ้งโอนปัจจัยทำบุญขอรับพระพิมพ์เป็นที่ระลึกมา 1 องค์
ผมพึ่งรับทราบว่า "พระพิมพ์หลวงปู่ทวดกลักไม้ขีด หลังเจดีย์พระธาตุพนมวังหน้า" หมดลงแล้ว
ดังนั้นผมจักพิจารณาส่งพระพิมพ์หลวงปู่ทวดฯ ที่ญาติธรรมฝากไว้ร่วมทำบุญส่งไปให้แทนท่าน ดร.นนต์นะครับ

ขอโมทนาสาธุครับ

153: 24 มีนาแทนคุณบิดามารดา

ในเดือนหน้า 23-24-25 มี.ค 55 : วาระแทนคุณบิดามารดา
ผมจะขออนุญาตองค์พ่อแม่ครูอาจารย์กับองค์พระพิมพ์อัญเชิญ


1. พระพุทธปฐวีธาตุแห่งองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ :แทนคุณบิดา
2. พระพิมพ์สมเด็จกลักไม้ขีดลงรักปิดทอง :แทนคุณมารดา
อธิษฐานจิตโดย
- หลวงปู่เจ้าประคุณสมเด็จโต พรหมรังสี (กายเนื้อ)
- คณะหลวงปู่ใหญ่บรมครูพระเทพโลกอุดร (ทั้งห้า)
อิทธิคุณ:
ดีเลิศในทุกๆด้าน โดยเฉพาะเรื่องมหาลาภ มหาโภคทรัพย์ มหานิยม
และ: จักขออนุญาตองค์พ่อแม่ครูอาจารย์แผ่บารมีเพิ่มให้
รายการละ 1 องค์ รวม 2 รายการ
มาร่วมประมูลหาปัจจัยสร้างวัดภูดานไห และตอบแทนญาติธรรมที่เข้ามาศึกษา สนใจในบอร์ดหลวงปู่แหวนฯ
โดยไม่มีการกำหนดคุณสมบัติผู้ร่วมประมูล ขอเพียงท่านมีจิตศรัทธาเท่านั้น

เนื่องด้วยอายุผมจะ 39 ปี ในวันที่ 24 มีนาคม จึงคิดว่าจะเริ่มที่ 939 บาทต่อรายการ โดยการประมูลผ่าน 3 ช่องทางคือ
1. ผ่านเวปบอร์ดหลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิต
2. ผ่านทาง e-mail : it.man@hotmail.co.th (กรณีไม่มี id)
3. ผ่านทางเบอร์มือถือผม : 087 683 2992
ทั้งนี้ ผมจักคอย update ให้ทราบเป็นระยะๆ เริ่ม 1 มี.ค. สิ้นสุด 23 มี.ค. 55

ปล: พระพิมพ์สมเด็จก็นับว่าหายากแล้ว แต่พระพิมพ์สมเด็จที่พิเศษระดับ 5 ดาวมี 5 พิเศษดังนี้
1. วาระ,ฤกษ์พิเศษ
2. องค์เสกพิเศษ
3. มวลสารพิเศษ
4. พิมพ์หนาพิเศษ
5. ลงรักปิดทองหน้า-หลังพิเศษ
มีเพียงวาระนี้ วาระแทนคุณบิดามารดารอบปีที่ 39 นี้วาระเดียวเท่านั้นเด๊อ...โมทนาสาธุครับ

วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

152: สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์

สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์
(หลวงปู่ฯปวเรศ)

กราบ กราบ กราบ
กราบ กราบ

29 ก.ย 2552 - 200 ปี หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ


ภาพถ่าย ณ พระพุทธรัตนสถานมนทิราราม ในพระบรมมหาราชวัง จากซ้ายไปขวา
1. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เมื่อครั้งทรงผนวช
2. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค็เจ้าอรุณนิภาคุณากร วัดราชบพิธ
3. พระสุคุณคณาภรณ์ (นิ่ม) วัดเครือวัลย์
4. สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ พระราชอุปัธยาจารย์
5. พระจันทรโคจรคุณ (ยิม จันทรังสี) วัดมกุฏกษัตริยาราม
6. พระพิมลธรรม(สมเด็จพระวันรัต ทับ พุทธสิริ) วัดโสมนัสวิหาร
7. พระอริยมุนี (พระพรหมมุนี เหมือน สุมิตฺโต) วัดบรมนิวาส
8. พระพรหมมุนี (สมเด็จพระพุฒาจารย์ ศรี) วัดปทุมคงคา
9. พระสาสนโสภณ (สมเด็จพระสังฆราชสา ปุสฺสเทโว) วัดราชประดิษฐ์ พระราชกรรมวาจาจารย์


ในสมัย ร.4 ว่างเว้นสังฆราชอยู่ 15 ปี ในสมัย ร.5 ว่างเว้นอยู่ 23 ปี ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เว้นไว้สำหรับผู้ที่สนใจจริงๆไปค้นคว้า มีอยู่เยอะใน Internet ขณะนั้นหลวงปู่อายุ 82 พรรษา ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 8 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ได้ประมาณ 11 เดือน ท่านก็สวรรคต ณ ตอนเช้าตรู่ของวันวันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน 2435 ท่านประสูตรเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายน 2352 (ผมยึดถือตามตำราพระประวัติ 19 สมเด็จพระสังฆราช) ถ้านับจากวันประสูติถึงวันนี้(29/09/09) ก็ 200 ปีพอดิบพอดีครับ

ฤกษ์ดีที่นับว่าหายยากมากในรอบปีครับ ผมพอจะสรุปให้ได้ดังนี้

วันอาทิตย์ ขึ้นหรือแรม 6 ค่ำ ...นามดิถีอันประเสริฐ ชัยโชค สำเร็จทุกประการ
วันจันทร์ ขึ้นหรือแรม 9 ค่ำ...ราชาโชค มีโชคลาภมาก
วันอังคาร ขึ้นหรือแรม 13 ค่ำ...มหาสิทธิโชค สำเร็จดียิ่ง
วันพุธ ขึ้นหรือแรม 2 ค่ำ ...อมฤตโชค สำเร็จผล
วันพฤหัสฯ ขึ้นหรือแรม 9 ค่ำ ...สิทธิโชคมหาวัน สมปรารถนา
วันศุกร์ ขึ้นหรือแรม 4 ค่ำ ...ราชาโชค มีโชคลาภมาก
วันเสาร์ ขึ้นหรือแรม 5 ค่ำ ...อมฤตโชค สำเร็จผล

วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

151: พระพิมพ์หลวงตามหาบัว

พระพิมพ์หลวงตามหาบัว มีมวลสารที่เป็นน้ำหมากและอื่นๆของท่าน
ได้รับแจกเทื่อคราไปกราบท่าน/IT Man
พระเนื้อผงผสมชานหมาก ข้าวก้นบาตรของหลวงตามหาบัว และเกศาของพ่อแม่ครูอาจารย์องค์นี้ ลูกศิษย์(นักศึกษา)นำมาให้ ส่วนเหรียญและรูปหล่อหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน นั้นผมได้มาโดยบังเอิญตามจิตอธิษฐาน พระทั้งสามองค์นี้มีพลังที่อบอุ่นเมตตามาก(เป็นปัจจัตตัง) ผมเกิดความปีติจนน้ำตาหลั่งออกมาครับ ใครเห็นใครพบก็อย่าปล่อยให้หลุดมือไปนะครับ (ผมไม่ทราบประวัติการสร้าง ท่านใดทราบก็แชร์ความรู้ด้วยนะครับ)

อนึ่ง...ผมไม่เคยคิดว่าจะได้เข้าใกล้หลวงตามหาบัว เพราะเข้าใจว่าคงมีลูกศิษย์เยอะและผมคงเข้าไม่ถึง แต่มีเหตุบังเอิญเมื่อปีที่แล้ว หลวงตามหาบัวได้เดินทางไปที่วัดป่าสาขาของท่านที่ อ.วังน้ำเขียว โคราช ผมจึงได้มีโอกาสไปกราบและสัมผัสกายเนื้อ(จับขาและน่องของท่าน)อย่างคาดไม่ถึง
ตามจิตอธิษฐานที่อยู่เบื้องหน้าท่านในขณะนั้น ซึ่งเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตของผม ซึ่งที่จริงในอดีตผมมีความผูกพันอยู่กับหลวงปู่มั่น
มาก (เป็นปัจจัตตัง เพราะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับผมขณะไปก้มกราบภาพพ่อแม่ครูอาจารย์ที่วัดหลวงพ่อจาม ที่มุกดาหาร เรื่องมันยาวครับ) ผมจะเจริญรอยตามพ่อแม่ครูอาจารย์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเป็นตัวอย่างให้แก่พวกเราแล้ว ทุกท่านก็จงเร่งเอานะครับ / Dr.นนต์
คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: หลวงตาบัว 1.jpg
Views: 20
Size: 951.9 KB
ID: 1383573 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: รูปหล่อหลวงตามหาบัว.jpg
Views: 412
Size: 686.4 KB
ID: 1383575 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: เหรียญหลวงตามหาบัว.jpg
Views: 18
Size: 1.27 MB
ID: 1383574   
เรื่องราวในอดีต:
สวัสดีครับวันนี้ถือว่าเป็นที่โชคดีของผมกับคณะที่ได้มีโอกาสถวาย...
1. พระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกกุสันโธ
2. พระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกัสสะโป
3. พระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามสมณะโคดม
4. พระพิมพ์วังหน้า TOP1,...4
5. ปัจจัย
แด่...หลวงตามหาบัว ณ วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี เวลาราว 12:43 พอถวายเสร็จในเสี้ยววินาที (43) เห็นท่านหลับตานิ่งซักพักหนึ่งครับ (ตามรูป)
โมทนาสาธุร่วมกันครับ

ลืมบอกว่าระหว่างการรอถวายก็ได้มีญาติโยม-พระ ห้ามว่า... อย่าถวายท่านเลย เพราะเป็นวัตถุมงคลและแม้จักถวายท่านก็ไม่เก็บไว้หรอก พร้อมทั้งระบุเวลาที่ท่านจะออกมาก็บ่ายๆ 2-3 หรือเย็นนู่น(ผมไปถึงวัด ~11:00) บางคนก็บอกว่าท่านไม่อยู่ออกไปข้างนอก พอถามว่าไปไหนก็ตอบไม่ได้ เหมือนไม่อยากให้เราถวายจริงๆ ซึ่งในเรื่องนี้ผมเองก็เคยได้ยินมาบ่อยๆ แต่ด้วยความตั้งใจอยากมาถวายท่านจริงๆอะไรจะเกิดก็ไม่กลัวแล้ว พร้อมทั้งอธิบายให้เข้าใจเจตนาทุกคนก็ได้ชี้แนะให้ไปรอท่านที่ไหน
และที่สำคัญงานนี้ผมได้รับแจกพระที่เป็นมวลสารของหลวงตามหาบัว ประกอบด้วย ชานหมาก ข้าวก้นบาตรและเกศาครูบาอาจารย์มาอีกด้วย เมื่อพิจารณาดูดีๆกลับมีพระธาตุสีสันเหมือนเพชรปรากฏอยู่จำนวนมาก (ตามรูป ไม่กล้าเอาออกมาถ่ายข้างนอก เกรงว่าจะหายหรือหลุดไป) ทั้งนี้ก็ได้ขอดูพระจากคนอื่นๆก็เป็นพิมพ์อื่นและเห็นมีน้อยมาก ปีติและปลื้มใจจริงๆครับ


หลวงตามหาบัวละสังขาร เมื่อเวลา 03.10 น.วันที่ 30 มกราคม ศ.ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จออกที่ประทับในตัวเมืองอุดรธานีถึงวัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี เพื่อทรงเยี่ยมอาการอาพาธของพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด และทรงเฝ้าดูแลหลวงตามหาบัวฯ อย่างใกล้ชิดตลอดเวลา จนถึงเวลา 03.53 น. คณะสงฆ์ ประชาชน ศิษยานุศิษย์ที่อยู่ในวัดที่มารอดูอาการอาพาธของหลวงตามหาบัว ฯ ก็ต้องพากันเศร้าโศกเสียใจเมื่อทราบแน่ชัดแล้ว หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ละสังขาร แล้ว ท่ามกลางการดูแลอย่างใกล้ชิดของคณะแพทย์

ต่อมาในเวลา 07.00 น.นายแพทย์พิชาติ ดลเฉลิมยุทธนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุดรธานี นำแถลงการณ์ของคณะแพทย์ที่รักษาหลวงตามาอ่านต่อหน้าคณะสงฆ์ให้ทราบดังนี้
"คำชี้แจงของคณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาองค์หลวงตามหาบัว ณ วัดป่าบ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี วันที่ 30 มกราคม 2554 เมื่อเวลา 2 นาฬิกา 49 นาที องค์หลวงตามีอาการทรุดลงอยู่ในภาวะวิกฤติ ระดับความดันโลหิตเริ่มต่ำลง ตรวจพบสมองหยุดทำงาน เวลา 3 นาฬิกา 25 นาที ตรวจพบม่านตาขยายไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองที่ฝ่ามือและฝ่าเท้า เวลา 3 นาฬิกา 40 นาที ชีพจร 54 ครั้งต่อนาที ความดันโลหิต 38/19 มิลิเมตรปรอท ออกซิเจนในเลือดมีค่าเท่าศูนย์ เวลา 3 นาฬิกา 50 นาที ชีพจร 49 ครั้งต่อนาที ความดันโลหิต 38/16 มิลิเมตรปรอท ออกซิเจนในเลือดมีค่า = 0 เวลา 3 นาฬิกา 53 นาที ความดันโลหิตมีค่า = 0 หัวใจหยุดเต้นและหยุดหายใจในเวลา 3 นาฬิกา 53 นาที"
ต่อมาพระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก เจ้าอาวาสวัดป่านาคำน้อย อ.นายูง จ.อุดรธานี ศิษย์ของหลวงตามหาบัว ได้มาประกาศให้ทราบว่า สำหรับศพของหลวงตาฯ นั้นจะไม่มีการฉีดน้ำยาฟอร์มาลีน ในขณะนี้ ก็ได้นำศพของหลวงตาฯ ออกจากห้องปลอดเชื้อมาที่ห้องพักที่หลวงตาเคยพักอยู่เดิมซึ่งอยู่ในกุฏิเดียวกันนี้ก่อนหน้าที่จะปรับปรุงเพิ่มห้องปลอดเชื้อ แล้วอนุญาตให้ญาติพี่น้องของหลวงตาเท่านั้น เข้าไปกราบสักการะศพ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงเป็นประธาน ในพิธีถวายน้ำหลวงสรงศพหลวงตามหลวงตามหาบัว และทรงวางพวงมาลา ในเวลา 18.00 น. วันนี้

ที่มา: ข่าวสด


2 ปีมานี้ได้ไปกราบพระผู้อริยะผู้ซึ่งจะไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว ก่อนที่ท่านจะละสังขาร
ปี 2552 ได้ไปงานทอดกฐิน และถวายพระสมเด็จองค์ TOP4 แด่พระอุปัฐากหลวงปู่สอ มีโอกาสไปกราบเท้าท่านกับหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์องค์จริง
ปี 2553 ได้ไปถวายพระบรมฯพระพุทธเจ้า 3 พระองค์ กับพระสมเด็จ TOP1,3,4 แด่หลวงตามหาบัว ระหว่างท่านพักผ่อนตามอริยาบท ผมได้ตามไปกราบท่าน 3 หนในวาระเดียวกันนี้ ประหนึ่งว่าจักไม่ได้มากราบท่านขณะทรงขันธ์อีกแล้ว
กราบ กราบ กราบ



นะโม แปลว่าความนอบน้อม
ตอนเช้าๆวันนี้เพื่อนสนิทกัน ได้โทรมาพูดคุยสัพเพเหระ สุดท้ายมาลงเอยกันที่การเดินทางไปสักการะพ่อแม่ครูบาอาจารย์ คือหลวงตามหาบัว ในช่วงปลายเดือน

แม้ท่านจะละสังขารไปดีแล้ว ผมเองก็อดใจหายไม่ได้ จะหาใครที่เสมอเหมือนท่าน เป็นเนื้อนาบุญอันงดงามเยี่ยงท่านนั้นน้อยนัก ร่วมกันคิดทบทวนหาครูบาอาจารย์ที่ท่านยังทรงขันธ์ก็เหลือน้อยลงเต็มทีครับ
ผมได้เตือนเพื่อนว่าในยุคของพวกเรานี้นั้นครั้งแรกคือหลวงปู่แหวนท่านละสังขาร ผมเองเห็นภาพข่าวไทยรัฐสีขาว-ดำ จิตยังอยากไปร่วมงานท่านแต่ติดที่ยังเด็กมากๆและห่างไกลกันเหลือเกิน
มาวันนี้ ท่านอยู่ในยุคของพวกเราแท้ๆ พวกเรายังมีกำลังมากๆที่จะไปสักการะสังขารท่านเป็นวาระสุดท้ายแล้ว ก็ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงเลยหนา

วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

150: พระคาถาธรรม

พระคาถาธรรม


พระคาถาอิติปิโส 8 ทิศ ถ้าจะไปมาในทิศทางใด ก็ให้ภาวนาบทนี้ตามทิศหรือไปทำกิจการงานใดๆ ให้เจริญภาวนาตามทิศที่ตนจะไป จะเป็นสิริมงคลแก่ตนและครอบครัว, คลาดแคล้วจากภัยทั้งหลาย จะไม่มีเหตุร้ายและอันตรายมาทำลายเรา แต่จำเป็นต้องเรียนขึ้นใจให้ได้แล้วภาวนาให้คล่อง จึงจะเกิดอานุภาพและสิริมงคลขึ้นได้
อิราชาคะตาระสาอิ ทิศบูรพา(ทิศตะวันออก)
ติหังจะโตโรถินังติ ทิศอาคเนย์(ทิศตะวันออกเฉียงใต้)
ปิสัมระโลปุสัตพุทปิ ทิศทักษิณ(ทิศใต้)
โสมะนะกะริทะโทโส ทิศหรดี(ทิศตะวันตกเฉียงใต้)
พะสัมสัมวิสาเทพะพะ ทิศปัจฉิม(ทิศตะวันตก)
คะพุทปันทุทัมวะคะคะ ทิศพายัพ(ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ)
วาโทโนอะมะมะวาวา ทิศอุดร(ทิศเหนือ)
อะวิสุนุตสะนุดติอะ ทิศอิสาน(ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ)

ต่อไปเป็นพระคาถาอิติปิโส 108 อย่างย่อ

อะ

อะ-อะ

อะ สัง – สัง อะ

อะ สัง วิ – วิ สัง อะ

อะ สัง วิ สุ – สุ วิ สัง อะ

อะ สัง วิ สุ โล - โล สุ วิ สัง อะ

อะ สัง วิ สุ โล ปุ – ปุ โล สุ วิ สัง อะ

อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ – สะ ปุ โล สุ วิ สัง อะ

อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ – พุ สะ ปุ โล สุ วิ สัง อะ

อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ พะ – พะ พุ สะ ปุ โล สุ วิ สัง อะ

อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ พะ – พะ พุ สะ ปุ โล สุ วิ สัง อะ

อนุโลม 54 ปฏิโลม 54

รวมเป็น 108 จบ

วิธีการภาวนาให้บังเกิดอานุภาพอย่างสูงสุดให้ภาวนาข้างละ 54 ครั้งรวมเป็น 108 จบ อิติปิโส108นี้ ถ้าหากว่าผู้ใดได้ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า ตอนเช้า108จบ ตอนเย็น108จบแล้ว เทพเทพาทั้งหมดย่อมจะรักษาและยังเป็นสิริมงคลแก่ตน พร้อมไปด้วยป้องกันภัยอันตรายทั้งหลายได้อาทิเช่น อัคคีภัย, วาตภัย, โจรภัย ดังนี้เป็นต้น แต่ก่อนที่ท่านจะภาวนาเพื่อให้ได้ผลนั้น จะต้องมีศรัทธา เพราะส่วนนี้เป็นเพียงแต่พระคาถาเท่านั้นจะดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่ที่ตัวของผู้ที่จะทำความเพียร ถ้าทำได้ดังนั้นเราก็ขออนุโมทนาด้วยความเคารพธรรม

วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

149: พระกรุศรีเทพอายุพันกว่าปี

กราบ กราบ กราบ
กราบ กราบ
พระกรุศรีเทพ เพชรบูรณ์ อายุกว่า 1,250 ปี (ท่านว่ามา) 
เนื้อพระท่านแข็งเป็นหิน
อายุพระท่านมากมายขนาด
ภาพจาก internet ครับ

ผมชื่นชอบเป็นพิเศษครับ สำหรับพระพิมพ์ศิลปทวารวดี
และเชื่อว่าพระพิมพ์องค์น้อยๆ จะต้องเกี่ยวข้องกับคณะเผยแผ่พระพุทธศาสนา
*******************
คงเป็นเพราะเคารพและสักการะบูชาท่านมากกระมัง?
พระบรมรูปทรงม้าพระองค์นี้ น่าจะบูชามาเมื่อประมาณ ปี 2544
เมื่อปีที่แล้ว(2554) ได้พบว่า .................... ดังในรูปครับ
คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: IMG_4772.JPG
Views: 25
Size: 1.28 MB
ID: 1912651 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: Picture 171.jpg
Views: 19
Size: 482.5 KB
ID: 1912648 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: IMG_4767.JPG
Views: 23
Size: 654.9 KB
ID: 1912650
เป็นเหตุหนึ่งกระมัง ที่ทำให้ผมเชื่อมั่นในพระสายวังที่ท่านสร้างไว้
ตั้งแต่ผมติดตามข่าวสารเรื่องพระสายวังจากหลาย ๆ แหล่ง
มักจะมีผู้(คิดว่าตนเองเป็นผู้)รู้ กล่าวเสมอว่า
เป็นเพราะหาพระดี ๆ พิมพ์สากลไม่ได้
หลงเชื่อในนิทานที่บอกเล่า(หลอกต่อ ๆ กัน)...ฯลฯ
คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: DSC08566.JPG
Views: 106
Size: 231.2 KB
ID: 1912706 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: DSC08567.JPG
Views: 20
Size: 266.7 KB
ID: 1912707
จากที่ผมได้พบทั้งระดับครูบาอาจารย์ พี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ มามากพอควร
กลับพบว่าเกือบทุก ๆ ท่าน มีสภาพเป็นบุคคลที่สูงสุดกลับคืนสู่สามัญทั้งสิ้น

ผมเองก็สุขใจที่ได้มีโอกาสใกล้ชิดและเรียนรู้ในสิ่งดี ๆ จากทุก ๆ ท่าน/srithong999
******************* 
ผมไม่เชื่อหรอกครับว่าผู้บูชาพระสายวังฯ อย่างพวกเราจะหาพระดีๆ พิมพ์นิยมไม่ได้ กลุ่มนักรบธรรมทุกท่านล้วนมีพระพิมพ์นิยมดีๆ สุดๆ แต่ไม่ต้องการจะอวดเท่านั้น และทุกท่านก็ไม่ได้มีไว้เพื่อค้าขายเอากำไรมาบำรุงกิเลส ใช่มั้ยครับ/somlatri
 *******************
เรื่องความนิยมชมชอบพระแต่ละสายนั้น นานาจิตตังครับท่านทั้งหลาย สำคัญอยู่ที่ใจของเราว่าข้องอยู่กับอะไร
เขาก็ว่าของเขาดี เพราะเขาไม่เปิดใจรับ และยึดติดตำรา เราก็ว่าของเราดี ซึ่งก็ดีจริงนิ หึหึ
ทุกวงการมีทั้งคนดีและไม่ดี
วงการผู้นิยมพระเครื่อง (ตามตำรา) ท่านก็มีพระดี คนดี ประสบการณ์ดี (ไม่่เกี่ยวกับเซียนที่ถูก...)
วงการผู้นิยมพระสายวังฯ เมื่อเปิดใจมาศึกษา เผยแพร่ ก็ใช่จะเรียกว่าคนดีกันได้ทุกคน
วงการที่มีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องมากไปหน่อย วงการนั้นก็จักหาผู้ที่ดีๆได้น้อยกว่า
จึงกลายเป็นกรณีปลาเน่าตัวเดียว...

หากมาพูดถึงพระพิมพ์พระเครื่องที่ดีนั้น แน่นอนว่าสายวังฯนั้นล้ำเลิศ
แต่จะล้ำเลิศได้ก็ต้องมีเงื่อนไขอยู่ อันเนื่องจาก ท่านผู้ทรงให้สร้าง คณะช่าง ผู้ทรงอธิษฐานจิต เทพฯผู้รักษา
ท่านอาจไม่ปลื้มก็ได้ที่เอาสมบัติของชาติออกมาโดยวิธีมิชอบ

โดยเฉพาะคณะผู้สร้างที่ท่านยังมีกิเลสอยู่ กลับกลายเป็นผู้รักษาองค์พระหรือเครื่องราง
หากสิ่งที่ว่าดีนั้น ตกไปอยู่กับผู้ที่เคยมีส่วนในการสร้าง,เจ้าของเก่า,เจ้านายเก่า นั่นก็ดีไป
สามารถประจักษ์ได้ด้วยตัวท่านเอง

แต่หากไปตกอยู่ในการครอบครอง ของผู้ที่ไม่มีส่วนในการสร้างในยุคนั้นเลยหรือแหล่งไม่ดีหล่ะ?

พระยุคนี้หรือพระในตำรา (ซึ่งแต่ก่อนเราก็เคยข้องอยู่) อาจแรงไม่มาก พระสายวังฯแรงมาก แต่อาจแฝงด้วยยาพิษผมจึงกังวลว่า พระดีๆแรงๆ ใช่ว่าจะดีกับท่านผู้ครอบครองเสมอไป
จิตหนึ่ง(+)ซึ่งมีความหลงไหลในพระดี พระแรง พระสูง จนลืมศึกษาถึงผลกระทบอีกภาคหนึ่ง(-)
บางท่าน(ให้ข้อมูลผมมา) ขนาดชำระหนี้สงฆ์ก็แล้ว แผ่เมตตาให้เขาก็แล้ว เขาก็รับรู้นะ แต่เขาก็ไม่รับ แล้วจะทำฉันใดหล่ะหนอ/IT Man