วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2555

86: พระคู่กาย ภูเบศวร์


องค์แรกพระพุทธปฐวีธาตุ กับสร้อยประคำเหล็กไหล
พระพญาเหล็ก(เหล็กไหล)หลวงปู่หวล อัญเชิญจากถ้ำแถบกำแพงเพชร เป็นพิมพ์สมาธิพระชัยวรมันสำหรับพระประจำตัวต้องขอโอกาสอัญเชิญมาให้ชมบ้างละครับ

ส่วนองค์สายพระวังต้องขอคัดสรรก่อนครับ

พระพญาเหล็ก ที่น้อมนำมาสู่ สายพระวังและ กลุ่มพี่น้องนรธ. โดยคำแนะนำของพี่อ๊อด
คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: DSCN9657 - Copy.JPG
Views: 14
Size: 373.9 KB
ID: 1808058 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: DSCN9653 - Copy_resize.jpg
Views: 13
Size: 75.0 KB
ID: 1808059 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: DSCN9648 - Copy_resize.jpg
Views: 13
Size: 96.0 KB
ID: 1808064
คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: DSCN9654 - Copy_resize.jpg
Views: 13
Size: 83.5 KB
ID: 1808061 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: DSCN9650 - Copy_resize.jpg
Views: 14
Size: 110.5 KB
ID: 1808062 คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name: DSCN9649 - Copy_resize.jpg
Views: 15
Size: 99.3 KB
ID: 1808063

somlatri: โอ้โห.. องค์สวยๆ มาอยู่นี่หมดเลย... มีพระกริ่งเหล็กไหลทั้งองค์ หลวงปู่หวลบอกผมว่า ในพันองค์จะมีสักองค์ที่มีกริ่งที่เกิดขึ้นเอง ไม่ได้ทำหุ่นเทียนให้มีกริ่ง ยินดีด้วยนะครับ

ยินดีกับท่านภูเบศร์ด้วยครับ มีแต่สวยๆและทรงคุณค่าทั้งนั้น พญาเหล็กไหลของหลวงปู่หวลนี้ชื่อกระฉ่อน จนถึงกับทำให้หลวงตาอรุณ พระกรรมฐานลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ผู้สร้างวัดสาขาวัดท่าซุงที่อำเภอวังน้ำเขียว โคราช ท่านเอ่ยปากว่าท่านเคยอยากได้ ผมเลยถวายท่านไปทันทีหลังจากได้รับจากท่านอ๊อดที่มอบให้ผม (มีแค่องค์เดียว) แล้วหลวงตายังเมตตาบอกผมว่า เดี๋ยวโยมก็จะได้รับพญาเหล็กไหลองค์ใหม่คล้ายๆกันนี้ และในวันต่อมาผมก็ได้รับพญาเหล็กไหลสีเงินยวงเสด็จมาทางอากาศที่วัดป่าประชาสามัคคีธรรมทันที วางไว้ที่หน้าตักอย่างมหัศจรรย์เช่นเดียวกันกับองค์ทองคำตามที่หลวงตาบอกไว้ และหลวงตายังบอกอีกว่า เขาจะมาเป็นคู่กันกับองค์ทองคำที่ผมได้รับมาทางอากาศที่วังน้ำเขียวอีกด้วย หลวงตาอรุณมักถอดจิตมากราบพระประธานที่บ้านผมเป็นประจำครับ


ปล.ให้ศึกษาการเสด็จมาทางอากาศของเพ็ชรนาคาและเหล็กไหลเพิ่มเติมจากบล็อก http://phraputpataweetat.blogspot.com/2011/11/002.html

ขอเจริญในธรรม

ดร.นนต์

16 ธันวาคม 2554


somlatri:พญาเหล็กที่เสด็จมาทางอากาศนั้น ผมยังไม่มีวาสนาได้รับกับมือตนเอง เมื่อถึงเวลาวาสนามาถึง ผมคงหาทางไปอัญเชิญองค์พญาเหล็กอีกครั้ง
ผมยินดีที่พระพญาเหล็กที่ได้มอบให้ดร.นนต์ไปนั้น ขณะนี้ได้ไปอยู่กับหลวงตาอรุณ นับเป็นเรื่องที่น่าปิติยินดีอย่างยิ่งครับ 



ขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับท่านอ๊อดอีกครั้งที่ได้มอบพญาเหล็กไหลของหลวงปู่หวล(ที่ท่านรักหวงแหน)แก่ผม เมื่อคราวเจอกันครั้งแรก และผมก็ได้มอบให้พระกรรมฐานต่อ เนื่องจากหลวงตาอรุณท่านศรัทธาหลวงปู่หวล ก็นับว่าได้ทำบุญร่วมกันกับท่านอ๊อดอีกครั้งครับ

ส่วนพญาเหล็กไหลองค์เงินยวงนั้น เมื่อผมนำท่านมาวางรวมกันกับองค์ทองคำที่ได้รับมาก่อนแล้ว ปรากฏว่าท่านดูดเอาสีทองจากองค์ทองคำมาอยู่ในองค์สีเงินยวงจนกลายเป็นสีสามกษัตริย์ เงิน ทอง นาก อย่างน่าอัศจรรย์ และหลังจากนั้น ท่านยังได้ดึงสร้อยประคำเหล็กไหลไพลดำของหลวงปู่โตมาอยู่กับผมเหมือนถูกจัดวางไว้ให้หมดแล้ว เพียงแต่จิตของผมจะปรารถนาหรือไม่ปรารถนาเท่านั้น ช่างมหัศจรรย์จริงหนอ ที่ว่าเหล็กไหลจะดูดทุกอย่างที่เป็นสิ่งมงคล และหลวงพ่อเหรียญชัยแห่งถ้ำสุมณฑา ท่านก็เอ่ยกับผมว่า แม้น้ำที่ล้างเหล็กไหล ไหลผ่านบ้านผู้ใดผู้นั้นก็จะมีแต่ความสุขความเจริญ ก็ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่มีพญาเหล็กไหลไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใดด้วยนะครับ

ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
17 ธันวาคม 2554

IT Man:
การที่ท่านนนต์ถวายองค์นั้น ทำให้ได้รับอีกสอง-สามองค์ต่อมา
นับว่าเป็นการทำบุญร่วมกันแบบทวีคูณ คิดได้ไงเนี่ย...เหอๆ

นิยามคำว่าชอบของพวกเราที่ยังมี ก็เพราะจริต/กิเลสที่เห็นศิลปะ
รูปพระพุทธเจ้าอันงดงามแลมีคุณค่าในองค์พระ...จากธาตุกายสิทธิ์หายาก

แต่ก็เบาบางลงไปมาก เพราะหากเป็นเมื่อก่อน แค่ชอบยังไม่พอ...
ต้องดั้นด้นหามาครอบครองให้ได้

ศึกษาเรื่องราวย้อนหลัง ตามหาพระพญาเหล็ก องค์ลีลา
ณ เมืองกรุงเก่ากับผม คุณอ๊อด คุณแหน่ง ได้ที่นี่ครับ
(หน้า 72-73)
ตำนานเหล็กไหล

เหล็กไหลเป็นโลหะธาตุที่มีความลี้ลับพิสดาร แปลกประหลาดมหัศจรรย์แตกต่างไปจากโลหะธาตุทั้งปวง จึงได้ถูกจัดอยู่ในฐานะ “ธาตุกายสิทธิ์” ที่มีชีวิตจิตวิญญาณ ซึ่งเป็นไปตามวิบากของกฎแห่งกรรม ที่บันดาลให้วิญญาณในสังสารวัฏมาปฏิสนธิ ในสภาวะที่เป็นโลหะธาตุที่ศักดิ์สิทธิ์มี อิทธิฤทธิ์เหนือธรรมชาติทั่วไป

ดังนั้น “เหล็กไหล” จึงถือเสมือนหนึ่งเป็น “สัตว์โลกที่มีชีวิต” เผ่าพันธุ์หนึ่งในโลก เพราะเหล็กไหลมีทั้งตัวผู้และตัวเมีย สามารถเคลื่อนไหวได้ เสพบริโภคน้ำผึ้งเป็นอาหาร มีการขับถ่ายออกมาได้ ซึ่งเรียกกันว่า “ขี้เหล็กไหล” นอกจากนี้ยังสามารถเสพกามได้ แต่เป็นการเสพกามกันทางกระแสจิตวิญญาณ เพราะเพียงแต่มีความรู้สึกใคร่ในกามารมณ์ ก็สามารถบรรลุจุดสุดยอดได้ในทันที โดยไม่ ต้องมีการถูกต้องสัมผัสกัน และชอบพักผ่อนหลับนอนในสถานที่สงบตามถ้ำ

เหล็กไหลจึงจัดเป็นสัตว์ที่ประเสริฐเผ่าพันธุ์หนึ่งของโลก จัดอยู่ในจำพวกเทพ แต่เป็นเทพที่ มาชดใช้วิบากกรรมในโลกมนุษย์ ดังนั้นจึงทำให้มีพวก ยักษ์ คนธรรพ์ ครุฑ นาค คอยให้ความอารักขาอีกทีหนึ่ง เหล็กไหลจึงมีถิ่นกำเนิด และบารมีที่แตกต่างกันไป ตามเผ่าพันธุ์และวรรณะ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะ และสมมุติเรียกหาเพื่อให้เห็นความแตกต่างชัดเจนขึ้นเท่านั้น เช่น

ประเภทของเหล็กไหล

เรียบเรียงโดย ๛ชมรมผู้สนใจพลังลี้ลับ๛.


1. เหล็กไหลโกฏิปี
เป็นเหล็กไหลที่หาได้ยากที่สุด และมีอิทฤิทธิ์มากที่สุดในบรรดาเหล็กไหลทั้งหมด เพราะเนื่องจากตัดได้ยากมาก ถ้าตัดไม่ดีอาจถึงชีวิตได้ และเก็บรักษาได้ยาก เป็นเหล็กไหลที่ยังไม่แข็งตัวตามธรรมชาติ เหล็กไหลโกฏิปี มีลักษณะสีเขียวคล้ายปีกแมลงทับ หรือสีออกประกายรุ้ง และยังสามารถเปลี่ยนสีได้เรื่อยๆ บางที่เรียกเหล็กไหลชนิดนี้ว่า เหล็กไหลปีกแมลงทับ ยังไม่สามารถระบุน้ำหนักได้ และจุดแข็งตัวได้

ความสามารถ - สามารถล่องหน หายตัวได้ และยังสามารถทะลุผ่านวัตถุได้ทุกชนิด มีคุณสมบัติในการดับพิษไฟ และความร้อนทุกชนิด กินดินปืน แคล้วคลาด มหาอุดคงกระพัน กันสัตว์มีพิษและ ฑูตผีปีศาจได้ทุกชนิด เหมาะสำหรับเสาะหามาเพื่อใช้ในการฝึกอภิญญาและเพิ่มพลังของสมาธิ และสามารถสร้างภาพมายาให้กับเจ้าของได้เช่นกัน เช่น บางครั้งจะแสดงเป็นภาพเจ้าของให้คนอื่นเห็นว่ามีเจ้าของอีกคนนั่งอยู่ข้างๆ คือนั่งอยู่คนเดียว แต่คนอื่นมองเห็นเป็น 2 คนนั้นเอง และมีพลังป้องกันตัวเองสูง สามารถช่วยปรับอุณหภูมิในร่างกายเจ้าของให้มีความสมดุลได้ เช่น เวลาร้อนก็จะแผ่พลังกระแสความเย็นให้ และยามหนาวก็จะปล่อยพลังกระแสความอบอุ่นให้

สิ่งที่ชอบ - กินพลังงานไฟฟ้าเป็นอาหาร ชอบน้ำผึ้ง และอาบแสงจันทร์เมื่อยามพระจันทร์เต็มดวง ฯลฯ

2. เหล็กไหลเจ้าป่า
มีอานุภาพใกล้เคียงกับเหล็กไหลโกฏิปี มีลักษณะสีดำเหมือนนิล กลม หากเป็นประเภทที่หาได้ยากจะยังไม่มีการแข็งตัวตามธรรมชาติ บางแห่งเรียกว่า "พญาสมิงเหล็ก" เพราะมีความเชื่อว่าเหล็กไหลชนิดนี้ มีเทพที่เป็นเจ้าป่าคอยปกปักษ์รักษาอยู่นั่นเอง

ความสามารถ - มีอานุภาพเป็นรองแค่เหล็กไหลโกฏิปีเท่านั้น สามารถกินดินปืน พลังงานไฟฟ้า ดับความร้อนและพิษร้อนได้ทุกชนิด และสามารถล่องหนหายตัวได้ ป้องกันฑูตผีปีศาจ มีพลังป้องกันตัวเองสูง สามารถช่วยปรับอุณหภูมิในร่างกายเจ้าของให้มีความสมดุลได้ เช่น เวลาร้อนก็จะแผ่ กระแสความเย็นให้ และยามหนาวก็จะปล่อยพลังกระแสความอบอุ่นให้

สิ่งที่ชอบ - กินพลังงานไฟฟ้าเป็นอาหาร ชอบน้ำผึ้ง และอาบแสงจันทร์เมื่อยามพระจันทร์เต็มดวง ฯลฯ

3. เหล็กไหลเพลิง
เป็นเหล็กไหลที่มีพลังธาตุไฟสูงมาก มีสีแดงเลือด สีเนื้อใส ถ้าพลังน้อยลงมาหน่อยจะมีสีแดงเหมือนอิฐมอญ ไม่นิยมนำมาฝังตามร่างกายเนื่องจากมีความร้อนสูง เพราะมีความเชื่อว่าเหล็กไหลชนิดนี้ชอบดูดซับความร้อนจากลาวาใต้โลก และพิษของสัตว์มีพิษต่างๆ "เหล็กประสานกาย"

ความสามารถ - เด่นในเรื่องสร้างภาพมายาเพื่อป้องกันตัวเองและเจ้าของไม่ให้ได้รับอันตราย และสามารถล่องหนหายตัวได้ ป้องกันฑูตผีปีศาจ มีพลังป้องกันตัวเองสูง ยามหนาวก็จะปล่อยพลังกระแสความอบอุ่นให้เพื่อให้เกิดอุณภูมิที่สมดุลในร่างกายของเจ้าของ ป้องกันไข้ป่า กินดินปืน แคล้วคลาด มหาอุดคงกระพัน กันสัตว์มีพิษและ ฑูตผีปีศาจได้ทุกชนิด

สิ่งที่ชอบ - ชอบน้ำผึ้ง


4. เหล็กไหลเงินยวง
มักอยู่ตามที่ๆมีอากาศเย็นมาก บางแห่งเรียกว่า เหล็กไหลชีปะขาว ค้นมากในแถบเนปาล ธิเบต และแถบที่มีหิมะปกคลุมตลอด เหล็กไหลชนิดนี้ มีสีเงินขาวเป็นยวงคล้ายกับปรอทมีความแวววาวเหมือนโลหะ มักมีวิญญาณของชีปะขาวหรือคนธรรพ์ดูแลรักษาอยู่

ความสามารถ - สร้างภาพลวงตา และปรับอุณภูมิภายในร่างกายให้กับเจ้าของ ล่องหนหายตัวได้ ใช้ทำน้ำมนต์รักษาโรค ป้องกันคุณผี คุณคน เป็นมหาอุด

สิ่งที่ชอบ - ไม่ชอบเสพน้ำผึ้ง แต่ชอบแสงจันทร์

5. เหล็กไหลน้ำ
มีลักษณะเป็นเหล็กไหลก้อนสีดำเหมือนนิลแกมเขียว บางแห่งที่พบอาจมีสีน้ำตาลอมแดง บางคนจะเรียกว่าเป็น "เหล็กไหลตาน้ำ" เอาล่อแม่เหล็กติด เพราะมักพบเจอได้ตามบริเวณใกล้กับแม่น้ำ ลำธารเสมอๆ เป็นเหล็กไหลที่หาได้ยากอีกชนิดหนึ่ง เพราะไม่ค่อยมีใครรู้จัก คนโบราณมักเอาแร่เหล็กไหลชนิดนี้มาหุงเคี่ยวด้วยคาถาอาคมเพื่อนำมาหล่อเป็นวัตถุกายสิทธิ์หรือเป็นพระพุทธรูป มักพบมากบริเวณลำธารในแถบภูเขาควาย และถ้ำเพียงดิน จังหวัดหนายคาย มักมีวิญญาณของพญานาคเป็นผู้ดูแลรักษา

ความสามารถ - ดับพิษไฟ - น้ำกรดเข้มข้นสูงได้ทุกชนิด มีความร่มเย็นเป็นสุขแก่ผู้ที่พกพา มีความสามารถในการสร้างน้ำได้ ล่องหน หายตัวได้

สิ่งที่ชอบ - ชอบเสพน้ำมะพร้าว

6. เหล็กเปียก
มีลักษณะสีสันใกล้เคียงกับเหล็กไหลเงินยวงแต่สามารถเปลี่ยนสีกลับเป็นสีดำได้ และกลับสีไปมาได้ เช่น สีเงินกลายเป็นสีดำ หรือ สีดำกลายเป็นสีเงิน

ความสามารถ - สามารถรวบรวมความชื้นในอากาศมารวมตัวกันจนกลายเป็นหยดน้ำได้ ป้องกันฟ้าผ่า มีความชื้นสูง สามารถทำให้ดินปืนชื้นได้ บางแห่งพบว่ามีการจำเหล็กไหลชนิดนี้มาหลอมรวมกับเศียรของพระพุทธรูปและสามารถสร้างหยดน้ำซึ่งกลายเป็นหยดน้ำทิพย์ให้เกิดขึ้นในเศียรของพระพุทธรูปได้ เช่นพระพุทธรูปที่วัดตูม จ.อยุธยา เป็นต้น

7. โคตรเหล็กไหลงอก
โคตรเหล็กไหลงอกเป็นเหล็กไหลชั้นรอง หรือเหล็กไหลน้ำรอง คือแข็งตัวไปตามธรรมชาติแล้ว ไม่เหมือนกับเหล็กไหลจำพวกน้ำหนึ่งที่ยังมีสภาพเป็นของเหลว ที่ต้องอาศัยถาคาอาคมในการตัด โคตรเหล็กไหลงอกนั้นไม่จำเป็นต้องอาศัยวิชาใดๆในการตัด สามารถนำออกมาได้เลย แต่ต้องทำพิธีขออนุญาตกับเจ้าที่และผู้ดูแลเหล็กไหลชนิดนี้เสียก่อน เพราะอาจจะเกิดอาเพศและอาถรรพ์ต่างๆ ตามมาถึงชีวิตได้ โคตรเหล็กไหลงอกที่ขึ้นชื่อที่พบมากมาจาก 3 แหล่งใหญ่ในประเทศไทยคือ

1. เขาอึมครึม จ. กาญจนบุรี
2. เกาะล้าน พัทยา
3. อ.ลอง จ.แพร่ ที่ชาวบ้านเขาเรียกว่าตับเหล็กเมืองลอง
4. อ. ปราสาท จ.สุรินทร์
และตามชายแดนเขตไทยพม่าอีกหลายแห่ง

โครตรเหล็กไหลงอกมีลักษณะการงอกเหมือนเม็ดไข่ปลาสีดำอมเขียว มีหลายสีสัน เช่น สีรุ้ง สีดำอมเขียว สีดำอมแดง สีดำผสมเงิน เป็นต้น
มักมีดวงวิญญาณของเจ้าป่าเจ้าเขาดูแลรักษามากมาย ทั้งเทพ คนธรรพ์ และพญานาค หรือมีญาณของพระฤๅษีที่มีตบะวิชาแรงกล้า

ความสามารถ - ช่วยบรรเทาภัยพิบัติต่างๆที่จะเกิดขึ้นกับโลกได้(ถ้ามีจำนวนมาก) สามารถงอกตัวได้เรื่อยๆ หรือขยายตัวเองให้ใหญ่ขึ้นได้ ป้องกันชีวิตเจ้าของได้ดี สามารถโต้ตอบกับเจ้าของได้ ปรับอุณภูมิร่างกายให้กับเจ้าของ เมื่อถูกสัตว์มีพิษสัตว์กัด ต่อย สามารถฝนด้านหลังของเหล็กไหลนำมาใส่แผลแก้พิษและบรรเทาอาการปวดได้ ไม่กินดินปืนและฟอสฟอรัส

สิ่งที่ชอบ - ชอบเสพน้ำผึ้ง โดยหยดน้ำผึ้งลงไปบนเหล็กไหล หรือจะน้ำแช่ลงไปเลย หรือว่าจะใส่แก้วเล็กๆวางข้างๆก็ได้เหมือนกัน กินพลังงานไฟฟ้าภายในบ้านได้หากมีภายในบ้านเป็นปริมาณมาก หากเพิ่งถวายน้ำผึ้งให้เสพใหม่ แล้วนำเหล็กไหลมาวางบนมือ เหล็กไหลจะปล่อยคลื่นพลังแรงกว่าปกติเป็นสัญญาณตอบรับ

***หากต้องการให้เหล็กไหลเปลี่ยนสีเป็นปีกแมลงทับ ควรนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกบ่อยๆ และนั่งสมาธิให้ทุกวัน เหล็กไหลจะค่อยๆ มีการเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ

8. โคตรเหล็กไหลทรหด
โคตรเหล็กไหลทรหดมีอิทธิฤทธิ์ใกล้เคียงกับโคตรเหล็กไหลงอกมาก แต่ลักษณะการงอกของโคตรเหล็กไหลทรหดนั้นจะงอกในรูปแบบเป็นก้อนๆ คล้ายก้อนกล้ามเนื้อเพิ่มขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เป็นแร่เย็นเหมาะสำหรับนำมาช่วยในเรื่องการเจริญสมถกรรมฐาน เพื่อช่วยให้มีการสงบสดชื่นมากขึ้น ทั้งจะเพิ่มกำลังจิตให้มีความสงบนานขึ้น(เหมือนกับเหล็กไหลงอกทุกประการ)

ความสามารถ - โคตรเหล็กไหลทรหดจะเด่นในเรื่องมหาอุด เหมือนกับโคตรเหล็กไหลงอกทุกประการ

สิ่งที่ชอบ - ชอบเสพน้ำผึ้งและแสงจันทร์ เหมือนกับโคตรเหล็กไหลงอก

9. โคตรเหล็กไหลย้อย
เป็นต้นกำเนิดของเหล็กไหลเหล็กไหลหยด มีขนาดใหญ่ตั้งแต่เท่ากำปั้นไปจนเท่าโอ่งใบขนานดย่อมๆก็มี สีดำ บ้างก็สีดำอมแดง บ้างก็สีเงิน หรือบางทีสีรุ้งก็มี มีลักษณะคล้าย เทียนเวลาโดนไฟลน สามารถงอกออกมาได้เรื่อยๆ โดยลักษณะการงอกจะเป็นเม็ด หรือเป็นคล้ายหยดเทียนออกมาเรื่อยๆก็ได้ มีวิญญาณของเจ้าป่าเจ้าเขา คนธรรพ์ พวกลับแลคอยเข้าดูแลรักษา โดยมีญาณของฤๅษีที่มีตบะแก่กล้าประจุอยู่ด้วย

บริเวณที่พบเป็นจำนวนมาก - อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ฯลฯ

ความสามารถ - มหาอุด คงกระพันหนังเหนียว ถ้าเอามาเข้าพิธีปลุกเสกแล้วจะเพิ่มพลังในตัวให้สูงกว่าเดิมมาก ป้องกันภูตผีปีศาจ ล่องหนหายตัวได้

สิ่งที่ชอบ - ชอบเสพน้ำผึ้ง

10. เหล็กไหลหยด
มีลักษณะคล้ายน้ำตาเทียนเวลาโดนความร้อน มักมีขนาดไม่ใหญ่ สีดำด้านไม่มีความแวววาว มีรูพรุนกลวง บางแห่งคนเรียกว่า "เหล็กหยด" หรือ "เหล็กหลบ"ไม่อยู่ในพวกของประเภทโคตรเหล็กไหล และไม่อยู่ในประเภทของเหล็กไหลน้ำหนึ่ง เพราะมีคุณภาพต่ำกว่ามาก มีขนาดเล็กความยาวประมาณ 1 นิ้วชี้ และมีหลายรูปร่างแต่โดยส่วนมากจะมีลักษณะคล้ายน้ำตาเทียน บางทีก็มีลักษณะกลม

บริเวณที่พบเป็นจำนวนมาก - อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ฯลฯ

ความสามารถ - มหาอุด คงกระพันหนังเหนียว ถ้าเอามาเข้าพิธีปลุกเสกแล้วจะเพิ่มพลังในตัวให้สูงกว่าเดิมมาก ป้องกันภูตผีปีศาจ ล่องหนหายตัวได้

สิ่งที่ชอบ - ชอบเสพน้ำผึ้ง